ณกฤช เศวตนันทน์ นบ. (เกียรตินิยม) นบท. นม.
Nakrit Sawettanan ACIArb
ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com
ด้วยความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีผลโดยตรงต่อศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ องค์การ World Economic Forum หรือ WEF จึงได้จัดอันดับความพร้อมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ Networked Readiness Index (NRI) ของประเทศสมาชิกต่างๆ จำนวน 144 ประเทศทั่วโลกเป็นประจำทุกปีเพื่อชี้วัดว่าแต่ละประเทศมีความพร้อมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมากน้อยเพียงใด ปรากฏว่าในปีนี้อันดับ NRI ของประเทศไทยอยู่อันดับที่ 74 ซึ่งปรับอันดับดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาจากดับดับที่ 77 ของโลก
จากสถิติที่ผ่านมาเราจะพบว่าอันดับ NRI หรืออันดับความพร้อมด้าน ICT สำหรับการพัฒนาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น ในปี 2006 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 34 ปี 2007 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 37 ต่อมาปี 2008 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 ถัดมาในปี 2009 และ 2010 ประเทศไทยอยู่คงที่ในอันดับที่ 47 ต่อมาในปี 2011 ประเทศไทยได้อันดับที่ 59 และปี 2012 ประเทศไทยตกไปอยู่ในอันดับที่ 77 ของโลกจากทั้งหมด 142 ประเทศ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของเราซึ่งกำลังจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พร้อมกันในปี 2015 อย่างสิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 2 ของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน
ทิศทางในการพัฒนาอันดับ NRI ของประเทศไทยดีขึ้นและมีความหวังสดใสมากขึ้นเมื่อในปี 2013 นี้ประเทศไทยได้อันดับที่ดีขึ้น คืออยู่ในอันดับที่ 74 ซึ่งแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านอื่นอย่างอินโดนิเซียที่อยู่ในอันดับที่ 76 เวียดนามที่อยู่ในอับดับที่ 84 และกัมพูชาที่อยู่ในอันดับที่ 106
หลายท่านคงอยากทราบว่าอันดับ NRI นี้พิจารณาจากอะไรและบ่งชี้ถึงอะไรที่เกี่ยวกับประเทศไทย อันดับ NRI นั้นจะพิจารณาจากปัจจัยหลัก 3 ปัจจัย ปัจจัยแรกคือความพร้อมด้านสิ่งแวดล้อม (Environment Component) ประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมด้านตลาด ด้านกฎระเบียบกับการกำกับดูแล และด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ จำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐาน ความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ปัจจัยที่สองคือความพร้อมในการใช้งานด้าน ICT (Readiness Component) ซึ่งประกอบด้วยความพร้อมของประชาชนในการใช้ ICT เช่น อัตราค่าบริการทั้งโทรศัพท์ประจำที่และโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมไปถึงความเท่าทันเทคโนโลยีของผู้ใช้บริการ ความพร้อมของภาคธุรกิจในการใช้ ICT และความพร้อมของภาครัฐในการใช้ ICT ปัจจัยสุดท้ายคือปัจจัยด้านการใช้งาน ICT (Usage Component) ซึ่งประกอบด้วยการใช้งานของประชาชน เช่น จำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต การใช้งานของภาคธุรกิจ ได้แก่ ความสามารถในการคุ้มครองสิทธิบัตรและการใช้งาน ICT ของภาครัฐ เช่น ความสำเร็จในการนำ ICT มาใช้ในภาครัฐ บริการออนไลน์ของภาครัฐกับความทั่วถึงของหน่วยงานของรัฐที่นำ ICT มาใช้งาน
ข้อมูลข้างต้นของแต่ละประเทศที่ World Economic Forum จะนำมาวิเคราะห์เพื่อหาอันดับ NRI นั้นเป็นข้อมูลที่ได้จากสหภาพโทรคมนาคมสากล (International Telecommunication Union : ITU) และองค์การสหประชาชาติ (United Nation : UN) ในสัดส่วนร้อยละ 43 ของจำนวนข้อมูลทั้งหมด ส่วนอีกร้อยละ 57 เป็นข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ (Survey Data)
จากการที่ World Economic Forum เป็นองค์กรอิสระที่ไม่หวังผลกำไรและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ รวมถึงการเป็นองค์กรซึ่งทำหน้าที่จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่างๆ ทั่วโลกมายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ผลการจัดอันดับที่ออกมารวมถึงปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์ในการจัดอันดับ NRI เป็นสิ่งที่ทุกประเทศให้ความสำคัญและถือเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งในการกำหนดหรือปรับปรุงนโยบายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการจัดอันดับ NRI มุ่งเน้นไปที่ความพร้อมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแต่ละประเทศซึ่งรวมถึงกิจการด้านโทรคมนาคมด้วย
สำหรับอันดับ NRI ของประเทศไทยในปี 2013 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ขยับดีขึ้นนั้นน่าจะเกิดจากความร่วมมือทำงานของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าจากการที่ประเทศไทยได้จัดประมูลใบอนุญาต 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz โดยสำนักงาน กสทช. ที่ช่วยทำให้ประเทศไทยมี 3G บนคลื่นความถี่มาตรฐานสากล ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าด้านการรับ – ส่งข้อมูล (Data) บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และเพิ่มจำนวนประชาชนที่เข้าถึงบริการ 3G ให้มากขึ้น รวมไปถึงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมหรือ USO ที่เน้นกระจายการเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตสู่ชุมชนในพื้นที่ชนบท และอีกหนึ่งส่วนสำคัญคือนโยบาย Smart Thailand ของกระทรวง ICT ที่เร่งผลักดันและส่งเสริมการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตของประชาชนในด้านต่างๆ อาทิ การจัดหาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband) เพื่อให้ประชาชนใช้งานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในระดับตำบล โครงการ ICT Free Wi-Fi ในพื้นที่สาธารณะ รวมถึงการสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการภาครัฐผ่านโครงข่าย Broadband ซึ่งเป็นนโยบายของกระทรวง ICT
การเข้าถึง ICT ของภาครัฐอันเป็นปัจจัยหนึ่งที่ชี้วัดความพร้อมด้าน ICT ของประเทศนั้น กระทรวง ICT เปิดเผยว่าได้มีการดำเนินงานในส่วนของ Smart Government ซึ่งเป็นการส่งเสริมการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับดำเนินการร่วมกับกระทรวงต่างๆ ในการพัฒนาบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. หน่วยงานในกำกับของกระทรวง ICT ได้เปิดบริการใหม่สำหรับหน่วยงานภาครัฐเรียกว่า “Government Software as a Service” หรือบริการออนไลน์ซอฟแวร์ภาครัฐ ที่จะเป็นทางเลือกให้กับภาครัฐได้มีโอกาสเลือกใช้ซอฟแวร์ที่ทำงานผ่านระบบ Government Cloud Service (G-Cloud) อันเป็นประโยชน์ในการรวมศูนย์กลางจัดการข้อมูลที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและทำให้หน่วยงานของรัฐมีทางเลือกในการจัดการระบบ IT มากขึ้น และที่สำคัญยังเป็นการลดต้นทุนงบประมาณในการจัดหาซอฟต์แวร์เพิ่มอีกด้วย บริการออนไลน์ซอฟแวร์ภาครัฐที่เปิดตัวแล้ว คือซอฟต์แวร์ด้านสารบรรณที่ให้ภาครัฐปรับเปลี่ยนการทำงานจากที่เคยอยู่บนระบบซอฟต์แวร์ของแต่ละหน่วยงานย้ายมาทำงานบนระบบ G-Cloud ซึ่ง Smart Government จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผลักดันโครงการ Smart Thailand ของกระทรวง ICT ให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมประชากรอย่างน้อยร้อยละ 80 ในปี พ.ศ. 2558 และร้อยละ 95 ในปี พ.ศ. 2563
ปัจจัยทั้งหมดในด้าน ICT และด้านโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐาน อัตราค่าบริการโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ความสามารถในการคุ้มครองสิทธิบัตร รวมไปถึงบริการออนไลน์ของภาครัฐกับความทั่วถึงของหน่วยงานของรัฐที่นำ ICT มาใช้งานล้วนแต่เป็นตัวชี้วัดความพร้อมในด้าน ICT ของประเทศทั้งสิ้น ดังนั้นรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจึงต้องร่วมมือกันผลักดันความก้าวหน้าด้าน ICT ให้เกิดขึ้นและขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่ขัดขวางการพัฒนาอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศสามารถกลับไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่มีความพร้อมด้าน ICT ได้ในอันดับต้นๆ และทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com