ณกฤช เศวตนันทน์ นบ. (เกียรตินิยม) นบท. นม.
Nakrit Sawettanan ACIArb
ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

หลังจากที่มีกระแสพูดถึงค่าบริการ 3G ใหม่บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ที่ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดให้บริการดูเหมือนว่าจะไม่มีการปรับลดราคาลงดังที่มีการคาดหมายกันไว้ ทำให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการอย่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทสช. ต้องเรียกผู้ได้รับใบอนุญาตทั้ง 3 รายอันได้แก่บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือ AIS บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือ TRUEMOVE และบริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด ในเครือ DTAC มาหารือถึงแนวทางในการลดค่าบริการ 3G ลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 15 ตามที่ได้มีการประกาศไว้ ซึ่งผลการหารือก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นที่น่าพอใจของบรรดาผู้ใช้บริการทั้งหลาย เมื่อผู้ประกอบการทั้ง 3 รายยอมลดค่าบริการลงตามที่ กสทช. กำหนด

สำหรับรายการส่งเสริมการขาย 3G เดิม (บนคลื่นความถี่อื่น) ที่ยกมาให้บริการต่อบนคลื่นความถี่ 2.1 GHz นั้นจะต้องลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ในขณะที่รายการส่งเสริมการขายที่ออกใหม่สำหรับบริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz นั้นมติที่ประชุมบอร์ดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. กำหนดให้ใช้อัตราเฉลี่ยของวันที่ 7 ธันวาคม 2555 ซึ่งเป็นวันที่ กสทช. ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายเป็นฐานในการกำหนดอัตราค่าบริการใหม่ที่ต้องลดลงอย่างน้อยร้อยละ 15 โดยอัตราเฉลี่ยค่าบริการประเภทเสียงจากเดิมที่คำนวณได้คือ 97 สตางค์ต่อนาที ลดลงเหลือ 82 สตางค์ต่อนาที ค่าบริการข้อความสั้นหรือ SMS จากเดิมข้อความละ 1.56 บาท ลดลงเหลือ 1.33 บาทต่อข้อความ ค่าบริการ MMS จากเดิมข้อความละ 3.90 บาท ลดลงเหลือ 3.32 บาทต่อข้อความ และค่าบริการอินเทอร์เน็ตจากเดิม 33 สตางค์ต่อ 1 Mb ลดลงเหลือ 28 สตางค์ต่อ 1 Mb โดย กสทช. จะเริ่มตรวจสอบอย่างจริงจังในอีก 1 เดือนหลังจากวันที่ 27 พฤษภาคมที่ประกาศมาตรฐานราคากลางและรอบใบแจ้งหนี้เดือนแรกของคลื่นความถี่ 2.1 GHz ออกมาแล้ว

หากพิจารณาถึงค่าบริการ 3G ประเภทเสียง (Voice) ที่ถูกกำหนดให้ลดลงเหลือ 82 สตางค์ต่อนาทีนั้นจะพบว่าถูกกว่าที่ กสทช. เคยออกประกาศกำหนด เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการได้ไม่เกินนาทีละ 99 สตางค์ และหากเทียบกับค่าบริการในต่างประเทศแล้วจะพบว่าต่ำกว่าราคาค่าบริการในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร อิตาลี และญี่ปุ่น

นอกจากในประเด็นของค่าบริการแล้ว มาตรฐานความเร็วในการใช้งาน 3G ประเภทการรับ-ส่งข้อมูล (Data) ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีความคืบหน้าออกมาเช่นกัน ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคมได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ใช้บริการกรณีความเร็วของการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลบน 3G ที่ลดลงเมื่อผู้ใช้บริการใช้ความเร็วสูงสุดครบตามที่ผู้ประกอบการกำหนด ระบบจะทำการลดความเร็วลงอัตโนมัติตามกฎที่ผู้ประกอบการตั้งขึ้นมา โดยมีชื่อเรียกว่า Fair Usage Policy (FUP) ให้มาอยู่ที่ 64 – 128 Kbps ต่อวินาทีตามแต่ผู้ประกอบการจะกำหนด แต่ในการประชุมหารือเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา กสทช. ได้ให้ผู้ประกอบการยึดหลักปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรฐานของคุณภาพการให้บริการโทรคมนาคมประเภทข้อมูลสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งกำหนดให้ความเร็วเฉลี่ยในการส่งข้อมูลกรณี Download ต้องไม่ต่ำกว่า 345 kbps และไม่ต่ำกว่า 153 kbps สำหรับการ Upload ด้วย

โดยปกติค่าบริการของผู้ประกอบการมักจะแปรผันตามการแข่งขันของตลาด ดังนั้นหากผู้ประกอบการรายใดสามารถมอบคุณภาพการบริการแก่ประชาชนผู้ใช้บริการที่ดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ผู้ให้บริการรายนั้นก็อาจจะคิดอัตราค่าบริการที่สูงกว่าผู้ให้บริการรายอื่นได้ แต่ทั้งนี้ยังคงต้องเป็นไปตามอัตราค่าบริการที่ไม่สูงไปกว่าที่ กสทช. ประกาศกำหนด ภายใต้คุณภาพที่ได้มาตรฐานทั้งด้านเสียงและข้อมูล

ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

ดาวโหลดเอกสาร