ณกฤช เศวตนันทน์ นบ. (เกียรตินิยม) นบท. นม.
Nakrit Sawettanan ACIArb
ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

ช่วงนี้อาจได้เห็นข่าวเกี่ยวกับการใช้โครงสร้างพื้นฐานในกิจการโทรคมนาคมร่วมกันหรือ Infrastructure Sharing อยู่บ่อยๆ หลักการ Infrastructure Sharing คือการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมร่วมกันเพื่อจุดประสงค์ในการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและลดความซ้ำซ้อนในการสร้างโครงข่ายใหม่อันเป็นทรัพยากรด้านโทรคมนาคม ทั้งยังเป็นการประหยัดพื้นที่ในการตั้งเสาโทรคมนาคมใหม่ ที่สำคัญกว่านั้น Infrastructure Sharing ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขยายโครงข่ายการให้บริการที่สามารถช่วยย่นระยะเวลาในการ Roll out Network ของผู้ให้บริการได้ ทำให้บรรดาผู้ให้บริการไม่ต้องพะวงกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานแต่สามารถมุ่งเน้นในด้านอื่นๆ ได้มากกว่า เช่น คุณภาพการให้บริการ การทำการตลาด อีกทั้งไม่ต้องกังวลใจต่อการลงทุนด้านการบำรุงรักษาโครงข่ายอีกด้วย ผลดีดังกล่าวจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคเพราะเมื่อผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ไม่สูง ผู้บริโภคย่อมจะได้รับบริการในราคาที่เป็นธรรม

หลักการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันนี้เป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับแพร่หลายในประเทศต่างๆ ที่มีการพัฒนาทางด้านโทรคมนาคมแล้ว เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก้ จีน และอิตาลี เป็นต้น

ในประเทศสหรัฐอเมริกาจะพบว่ามีบริษัทที่ให้บริการเช่าเสาโทรคมนาคมสำหรับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวนหลายราย เช่น The Mid-Atlantic Broadband
Co-operative หรือ MBC ที่มีเสาครอบคลุมในเขตรัฐเวอร์จิเนีย MBC ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2000 ด้วยสาเหตุที่ต้องการลดปัญหาในช่วงที่เกิดวิกฤตทางสังคมและเศรษฐกิจอันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงภาวะเศรษฐกิจโลก โดยในขณะที่หลายๆ อุตสาหกรรมต้องปิดตัวลงและผู้คนต่างสูญเสียงานที่ทำ แต่ MBC กลับเล็งเห็นถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ในชนบทของรัฐเวอร์จิเนียที่ยังไม่มีการแข่งขันในการให้บริการโทรคมนาคมและอัตราค่าบริการที่มีราคาสูง อีกทั้งผู้ให้บริการที่มีอยู่นั้นไม่มีแผนที่จะขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์ให้แพร่หลายในภูมิภาค ด้วยเหตุดังกล่าว MBC จึงได้สร้างเสาโทรคมนาคมที่เชื่อมต่อกับ fiber – backbone เพื่อที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับบรรดาผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายในการจัดหาทั้งเสียงและบริการบรอดแบนด์ลงไปยังพื้นที่ที่ยังขาดแคลน ปัจจุบัน MBC นับว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและยังคงมีเสาโทรคมนาคมให้เช่าอยู่ ยกตัวอย่างเช่นในตอนใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย เสาโทรคมนาคมเหล่านี้นอกจากจะรองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วยังถูกออกแบบให้รองรับความต้องการของผู้ให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายและอินเทอร์เน็ตไร้สาย ไมโครเวฟ backhaul รวมถึงการสื่อสารในกรณีฉุกเฉินด้วย รูปแบบการให้เช่าเสาของ MBC จะเป็นการให้เช่ารายเดือนซึ่งจะรวมถึงสิ่งที่ติดมากับเสา พื้นดินสำหรับการจัดวางตู้อุปกรณ์สื่อสารและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการสื่อสารต่างๆ ด้วย

สำหรับประเทศไทยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ออกกฎหมายเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยส่งเสริมและพัฒนากิจการโทรคมนาคมให้ก้าวไปพร้อมกับการมี 3G บนคลื่นความถี่มาตรฐาน 2.1 GHz จำนวนหลายฉบับ หนึ่งในนั้นก็คือร่างประกาศเรื่องการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือหลักการ Infrastructure Sharing นั่นเอง ซึ่งร่างประกาศ Infrastructure Sharing นี้ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทค. ได้มีมติเห็นชอบแล้วในการประชุมเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาและจะนำเข้าที่ประชุมใหญ่ กสทช. ในวันที่ 19 เมษายน 2556 นี้เพื่อให้มีมติเห็นชอบและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลใช้บังคับภายในเดือนเดียวกันนี้

ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง Infrastructure Sharing นี้มีวัตถุประสงค์อยู่ที่การส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรในกิจการโทรคมนาคมร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้ผู้รับบริการได้รับบริการที่มีคุณภาพ โดยร่างประกาศฯ มีสาระสำคัญอยู่ที่ผู้รับใบอนุญาตทุกรายมีหน้าที่ต้องเปิดกว้างให้ผู้รับใบอนุญาตรายอื่นใช้โครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ร่วมกันด้วยการจัดทำข้อเสนอการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ต้องไม่มีเงื่อนไขอันเป็นการเลือกปฏิบัติ แบ่งแยกหรือกีดกัน และต้องไม่มีเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ใช้บริการเสียประโยชน์ อีกทั้งต้องมีการกำหนดค่าตอบแทนที่เป็นธรรม สมเหตุสมผล หรือไม่เลือกปฏิบัติ และห้ามปฏิเสธไม่ให้ใช้โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือกำหนดเงื่อนไขอันเป็นการกีดกันการใช้

ส่วนค่าตอบแทนในการใช้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างผู้รับใบอนุญาต แต่ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้นคู่กรณีมีสิทธิร้องขอให้ กสทช. วินิจฉัยชี้ขาดได้ และเพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นการเปิดเผย ร่างประกาศฯ จึงกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตที่ให้ใช้โครงข่ายร่วมกันนั้นส่งสำเนาสัญญาให้ กสทช. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้ลงนามในสัญญากับทั้งต้องเปิดเผยสัญญาและเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้เป็นการทั่วไปด้วย นอกจากนี้ประกาศฯ ยังได้กำหนดว่าสิ่งใดบ้างคือโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต้องมีการใช้ร่วมกัน อันได้แก่ ระบบสายอากาศ สายนำสัญญาณ เสาซึ่งใช้ติดตั้งสายอากาศ อาคารสิ่งปลูกสร้าง พื้นที่ตั้งสถานีฐาน ระบบสื่อสัญญาณเชื่อมโยงไปยัง RNC หรือ BSC ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการตีความที่แตกต่างกันว่าสิ่งใดบ้างคือโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต้องมีการใช้ร่วมกัน

องค์กรที่ขานรับประกาศฯ ฉบับนี้มากที่สุดคือ ทีโอที โดยจะเห็นได้จากความคืบหน้าล่าสุดที่คาดว่า ทีโอที จะสามารถตั้งบริษัทลูกในชื่อ Tower Co Company ได้ภายในไม่เกินเดือนสิงหาคมปีนี้ ภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ กนร. ได้อนุมัติแผนการดำเนินงานและแนวทางในการบริหารธุรกิจแล้วเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาตามที่กระทรวง ICT เสนอ นอกจากนี้การเจรจาระหว่าง ทีโอที ในฐานะผู้ให้สัมปทาน กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในฐานะผู้รับสัมปทานก็ดูจะเป็นไปด้วยดีโดยในเบื้องต้น AIS ได้โอนกรรมสิทธิ์เสาโทรคมนาคมทั่วประเทศกว่า 13,000 เสาจากทั้งสิ้น 15,000 แก่ ทีโอที แล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวอีกด้วยว่า ทีโอที และ AIS มีการหารือกันเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจในลักษณะของการบริหารจัดการเสาโทรคมนาคมหรือ Tower Company นี้ร่วมกันโดยจะใช้บริษัทลูกของ ทีโอที คือบริษัท เอทีซี โมบาย จำกัด ซึ่ง
ทีโอที ถือหุ้น 100 % และ AIS ถือหุ้นร่วมกันภายใต้บริษัท แอดวานซ์ ดาต้า เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดีซี

แต่รูปแบบบริษัทที่ถูกเปิดเผยข้างต้นยังมีความแตกต่างกับรูปแบบบริษัทที่นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT กล่าวก่อนหน้านี้ว่า Tower Co จะต้องเป็นบริษัทที่เป็นกลางอย่างแท้จริงและไม่มีบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาร่วมถือหุ้นด้วยเด็ดขาดเพราะหากอนุญาตให้ผู้ให้บริการรายเดิมในตลาดเป็นผู้ถือหุ้นด้วยก็จะส่งผลให้ไม่มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นมาเช่าใช้โครงข่ายเนื่องจากความไม่มั่นใจ ดังนั้นบริษัท TOWER CO ในมุมมองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT จะมีลักษณะเป็นนักลงทุนต่างชาติผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัท

ส่วนทางฝั่งของบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นั้นยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันระหว่าง กสท. กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ในฐานะผู้รับสัมปทาน ดังนั้นในช่วงเดือนสิงหาคมนี้โอกาสที่จะได้เห็นบริษัท TOWER CO ของ กสท. คงต้องลุ้นกันมากพอสมควร

แม้ว่าในปัจจุบันผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G อาจจะไม่ได้เช่าใช้เสาจากบริษัท TOWER CO แต่ในอนาคตอันใกล้ที่จะมีการประมูลคลื่นความถี่อื่นๆ เชื่อแน่ว่าในเวลานั้นบริษัท TOWER CO เหล่านี้จะเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญของบรรดาผู้ประกอบการในการ Roll Out Network และในขณะเดียวกันบริษัท Tower Co ยังเป็นโอกาสสำหรับเหล่าบรรดาผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดโทรคมนาคมได้มากขึ้นเนื่องจากในอนาคตประเทศไทยจะมีคลื่นความถี่เพิ่มมากขึ้นทั้ง 1800 MHz หรือ 2.3GHz ซึ่งอาจมีแนวคิดเปิดประมูลเป็นภูมิภาค ผู้ประกอบการรายเล็กก็สามารถเข้าร่วมได้และสามารถเช่าใช้เสาจาก TowerCo ได้ เพียงแค่ติดตั้งอุปกรณ์และซอฟต์แวร์เท่านั้น

ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

ดาวโหลดเอกสาร