ณกฤช เศวตนันทน์ นบ. (เกียรตินิยม) นบท. นม.
Nakrit Sawettanan ACIArb
ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างหลักเกณฑ์สำคัญในการเผยแพร่ภาพการแข่งขันกีฬาโดยกำหนดประเภทของการแข่งขันที่คนไทยทุกคนจะต้องได้ดู

นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กสทช. และกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ด้านเศรษฐศาสตร์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมและกำกับการแข่งขันในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการโทรทัศน์ในช่องทางต่างๆ ทั้งตัวแทนฟรีทีวีและเคเบิลทีวีเกี่ยวกับร่างประกาศใหม่ของ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การแพร่ภาพรายการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ

ในอดีตการถือครองลิขสิทธิ์กีฬาจะเป็นลักษณะการแข่งกันประมูลด้วยราคาลิขสิทธิ์มหาศาลที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ด้วยมูลค่าสูงสุดติดอันดับแรกๆ ของโลกและเป็นการซื้อลิขสิทธิ์แบบผูกขาด แต่ในขณะนี้ กสทช. กำลังขอความเห็นเพื่อพิจารณาร่างประกาศลิขสิทธิ์กีฬาบางชนิดที่คนไทยต้องการดูซึ่งผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ควรแบ่งให้ฟรีทีวีและเคเบิลทีวีออกอากาศได้ด้วย เรียกว่า “ร่าง Non-Exclusive” หรือมาตรการแบ่งให้ โดยผู้ประกอบการไม่สามารถผูกขาดหรือกีดกันผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้

การแบ่งจะต้องเป็นการซื้อขายลิขสิทธิ์ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ผูกขาดไว้เพียงเจ้าเดียวเพราะจะเป็นการกีดกันทำให้ผู้ชมเสียประโยชน์ไม่สามารถรับชมได้ การแข่งขันกีฬาที่ กสทช. ได้มีการกำหนดเบื้องต้นว่าจะต้องมีการแบ่งลิขสิทธิ์ให้ฟรีทีวีและเคเบิลทีวีในขณะนี้ยังเป็นการกำหนดในเบื้องต้นเท่านั้น สามารถเพิ่มเติมหรือลดรายการจากที่กำหนดไว้แล้วได้

ชนิดกีฬาที่บังคับถ่ายทอดสด 7 รายการประกอบด้วย รายการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก รายการแข่งขันคอนเฟเดอเรชั่นส์คัพ รายการแข่งขันเอเชี่ยนคัพรอบสุดท้ายและรอบที่มีทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขัน รายการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกหรือฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย การแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก รายการแข่งขันวอลเลย์บอลระดับชิงแชมป์โลก รายการแข่งขันเทนนิส เดวิส คัพ

เหตุผลที่ กสทช. ออกร่างประกาศ Non-Exclusive นี้เพราะต้องการให้กีฬาบางรายการที่ประชาชนให้ความสนใจ ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและรับชมได้อย่าวทั่วถึง กับทั้งยังเป็นการลดต้นทุนของผู้ประกอบการได้อีกทางหนึ่ง เพราะการแบ่งให้ถ่ายทอดสดนั้นสามารถต่อรองเรื่องส่วนแบ่งต้นทุนค่าลิขสิทธิ์กับผู้ประกอบการรายอื่นที่จะนำไปออกอากาศได้ อีกทั้งประเภทรายการกีฬาทั้ง 7 รายการล้วนเป็นประเภทที่มีผลต่อตลาดน้อย เนื่องจากนโยบาย กสทช. ไม่ประสงค์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลไกเรื่องการตลาดการแข่งขัน ดังนั้นในกรณีลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลโลก หรือรายการที่มีการแข่งขันกันสูง กสทช. จะไม่มีการนำร่างประกาศฉบับนี้เข้าไปบังคับใช้

ในการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ตัวแทนของฟรีทีวีและเคเบิลทีวีส่วนใหญ่เห็นด้วยและได้เสนอแนวความคิดเรื่องการประมูลกีฬาชนิดต่างๆ ว่าควรให้ผู้ประกอบการในแต่ละช่องทางได้พูดคุยกันมากกว่าการแข่งขันกัน เนื่องจากในปัจจุบันการประมูลมีตัวเลขค่อนข้างสูงและผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่กับคนไทย นอกจากนี้ยังเสนอให้ก่อตั้งหน่วยงานกลางของผู้ประกอบการเพื่อจัดซื้อลิขสิทธิ์กีฬาต่างประเทศ และก่อนที่จะไปซื้อลิขสิทธิ์กีฬาใดควรที่จะมีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจลิขสิทธิ์กีฬารายการเดียวกันและรวมเงินกันไปซื้อเพื่อป้องกันการซื้อลิขสิทธิ์ด้วยราคาที่แพงมหาศาลเหมือนที่เป็นมาซึ่งผลเสียจะอยู่กับผู้บริโภค ในขณะที่นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล ที่ปรึกษานายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทยได้เสนอว่า กสทช. ควรออกประกาศบังคับให้ทุกชนิดกีฬา ไม่ใช่แค่เพียง 7 ประเภทรายการต้องแบ่งการออกอากาศ ห้ามถือครองลิขสิทธิ์ผูกขาดไว้แต่เพียง ผู้เดียว ซึ่งวิธีดังกล่าวจะช่วยลดมูลค่าเพิ่มจากการแข่งขันช่วงชิงเป็นผู้ชนะในการประมูลลิขสิทธิ์รายการใดรายการหนึ่งของผู้ประกอบการรายใหญ่อันจะเป็นการลดต้นทุนในการประมูลค่าลิขสิทธิ์อย่างแท้จริง

ร่างประกาศฉบับนี้ยังคงอยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ยังไม่มีผลบังคับใช้และมีโอกาสที่จะเพิ่มหรือลดประเภทรายการ หรือมีการเปลี่ยนแปลงประเภทรายการกีฬาได้ ผู้บริโภคจึงควรติดตามอย่างใกล้ชิด แต่อย่างน้อยที่สุดนับว่าเป็นเรื่องที่ดีและเป็นการพัฒนาวงการโทรทัศน์ไทยควบคู่ไปกับการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค

ที่ปรึกษา www.lawyer-thailand.com

ดาวโหลดเอกสาร